สาริศผงาดแซงคว้าแชมป์สิงห์คลาสสิค

“โปรเซฟ” สาริศ สุวรรณรัตน์ วัย 21 ปีจากกรุงเทพฯ สร้างผลงานอันยอดเยี่ยมทำ 6 เบอร์ดี้ไม่เสียโบกี้เลยสกอร์ 6 อันเดอร์พาร์ 65 ในวันสุดท้ายกอล์ฟสิงห์ คลาสสิค ที่จังหวัดนครนายก เมื่อวันอาทิตย์ที่ 2 มิถุนายน 2562 สกอร์รวมสี่วัน 14 อันเดอร์พาร์ 270 คว้าแชมป์ไปครองนับเป็นแชมป์ที่สองของเขาในออล ไทยแลนด์ กอล์ฟ ทัวร์ พร้อมกับรับเงินรางวัล 300,000 บาท และคะแนนอันดับโลก 5 แต้ม
การแข่งขันกอล์ฟอาชีพสะสมคะแนนอันดับโลก ออล ไทยแลนด์ กอล์ฟ ทัวร์ รายการสิงห์คลาสสิค 2019 ชิงเงินรางวัลรวม 2 ล้านบาท ณ สนามรอยัลฮิลส์ กอล์ฟ รีสอร์ท แอนด์ สปา ระยะ 7,173 หลา พาร์ 71 จังหวัดนครนายก ระหว่างวันที่ 30 พฤษภาคม- 2 มิถุนายน 2562 แชมป์จะได้รับเงินรางวัลไปครอง 300,000 บาท และคะแนนสะสมอันดับโลก 5 คะแนนผ่านไปสามวันแรก ภูสิทธิ์ ทรัพย์อัประไมย โปรจากจังหวัดราชบุรีนำเดี่ยว

แต่วันสุดท้ายเมื่อวันอาทิตย์ที่ 2 มิถุนายน  “โปรเซฟ” สาริศ สุวรรณรัตน์ วัย 21 ปีจากกรุงเทพฯ กลับมาแรงแบบฉุกไม่อยู่ทำ 6 เบอร์ดี้ที่หลุม 1, 2, 8, 9, 11, 12 ไม่เสียโบกี้ สกอร์ 6 อันเดอร์พาร์ 66 รวมสี่วัน 14 อันเดอร์พาร์ 270 แซงชนะ ภูสิทธิ์ ทรัพย์อัประไมย ผู้นำในสามรอบแรกไปเพียงสโตรกเดียวเท่ากันคว้าแชมป์ไปครอง และรับเงินรางวัล 300,000 บาท และคะแนนอันดับโลก 5 แต้ม และนับเป็นแชมป์ที่สองที่ทำในออลไทยแลนด์ กอล์ฟ ทัวร์หลังเคยคว้าแชมป์สิงห์พัทยาโอเพ่น 2016 เมื่อสมัยเป็นนักกอล์ฟสมัครเล่น

สาริศ กล่าวหลังการคว้าแชมป์ว่า “ที่ผ่านมาผมมีอุปสรรคเยอะครับตั้งแต่ช่วงหลังไทยแลนด์โอเพ่นปีที่แล้วผมเล่นได้อย่างมั่นใจมากแต่ดันเจ็บหลัง แล้วก็หลังจากนั้นก็ตีไม่ค่อยดี พอเริ่มมาตีดีขึ้นก็โชคไม่ดีประตูหล่นใส่นิ้วเท้าแตก ไม่ได้เล่น 2 แมตช์ รู้สึกเซ็งนิดๆ แต่ก็พยายามจนกลับมาได้ในวันนี้ รายการนี้ค่อนข้างมั่นใจ 90 เปอร์เซ็นว่าตัวเองจะตีได้ดีแน่ๆ เพราะว่าเป็นสนามรอยัลฮิลส์ด้วย ผมรู้สึกมั่นใจคิดว่าตัวเองจะทำได้ดี แมตช์นี้ต้องยกให้พัตเตอร์กับเพื่อนที่มาเป็นแคดดี้ 2 อย่าง เพราะว่าพัตเตอร์เปลี่ยนใหม่มั่นใจมาก พลาดยาก ถ้าอ่านไลน์ออกก็มั่นใจ ส่วนเพื่อนที่เป็นแคดดี้ก็ทำให้มีเพื่อนคุยช่วยตัดสินใจช่วยลดความกดดันได้เยอะ ผมลงแข่งก็อยากติดท็อปทุกแมตช์ครับ แต่ปีนี้ที่อยากทำให้ได้เลยคือชนะเอเชียนทัวร์ในไทยสักแมตช์ เพราะว่าอยากได้ทัวร์การ์ดในปีหน้าครับ“

ภูสิทธิ์ ทรัพย์อัประไมย วัย 25 ปีจากราชบุรี ทำเพิ่ม 1 อันเดอร์พาร์ 70 จาก 3 เบอร์ดี้ เสีย 2 โบกี้ สกอร์รวม 13 อันเดอร์พาร์ 271 คว้าอันดับ 2 ร่วมกับ กษิดิศ เล็บครุฑ ทำสกอร์ 68 และคิม จู-ฮยอง จากเกาหลีใต้ซึ่งทำสกอร์ 66 รับเงินรางวัลคนละ 130,666 บาท
นิรันดร์  แซ่อึ้ง ทำสกอร์ 68 คว้าที่ 5 ด้วยสกอร์ 10 อันเดอร์พาร์ 274  รับเงินรางวัล 75,000 บาท, ปวิธ  ตั้งกมลประเสริฐ ทำสกอร์ 70 กับ สุธีพัทธ์  ประทีปเธียรชัย สกอร์ 67  จบลงอันดับ 6 ร่วมสกอร์ 9 อันเดอร์พาร์ 275 รับเงินรางวัลคนละ 56,550 บาท

ส่วน ปรัตถกร สูยะศรี นักกอล์ฟหนุ่มร่างโย่งวัย 19 ปีจากจังหวัดชลบุรีซึ่งศึกษาอยู่ในมหาวิทยาลัยโคโลราโด้ในสหรัฐฯทำสกอร์ปิดท้าย 70 สกอร์รวม 6 อันเดอร์พาร์ 278 จบลงอันดับ 14 ร่วมคว้ารางวัลนักกอล์ฟสมัครเล่นดีเด่น ได้รับถ้วยรางวัล ศุภพร  มาพึ่งพงศ์ ไปครอง
"จิ๋ว" กัมลาศ  นาเมืองรักษ์ แชมป์เมื่อปีที่แล้วตีเกิน 3 โอเวอร์พาร์ 74 สกอร์รวม 5 อันเดอร์พาร์ 279 อันดับ 16 ร่วมกับ นำโชค  ตันติโภคากุล  69  ส่วน สดมภ์  แก้วกาญจนา ผู้นำร่วมในรอบที่สองที่เกิน 7 โอเวอร์พาร์ 78 สกอร์รวม 2 อันเดอร์พาร์ 282 จบลงอันดับ 30 ร่วม
นักกอล์ฟที่น่าสนใจคนอื่นๆปวิธ ตั้งกมลประเสริฐ 70  สกอร์รวม 9 อันเดอร์พาร์ 275 อันดับ 6 ร่วม, พรหม มีสวัสดิ์  70  และ ชัพชัย  นิราช  66  สกอร์รวม 8 อันเดอร์พาร์ 276 ได้ที่ 8 ร่วม, ภวินท์  อิงคะประดิษฐ์  69 สกอร์รวม 7 อันเดอร์พาร์ 277 อันดับ 12 ร่วม, โคสุเก  ฮามาโมโต้ โปรหนุ่มลูกครึ่งไทย-ญี่ปุ่น 72  สกอร์รวม 4 อันเดอร์พาร์ 280 อันดับ 25 ร่วม, ชินรัตน์  ผดุงศิลป์  71 สกอร์รวม 1 อันเดอร์พาร์ 283 ได้ที่ 36 ร่วม
รายการต่อไปของออลไทยแลนด์กอล์ฟทัวร์คือรายการสิงห์ ออลไทยแลนด์ แชมเปี้ยนชิพ 2019 ชิงเงินรางวัลรวม 3 ล้านบาท  ที่สนามสุวรรณ กอล์ฟ แอนด์ คันทรี คลับ จังหวัดนครปฐม ระหว่างวันที่ 13-16 มิถุนายน นี้

อันดับคะแนนหลังจบวันสุดท้าย
1. 270 (-14)-สาริศ สุวรรณรัตน์ 65-74-66-65 รับเงินรางวัล 300,000 บาท
2. 271 (-13)-ภูสิทธิ์ ทรัพย์อัประไมย 63-70-68-70, กษิดิศ เล็บครุฑ 66-69-68-68, คิม จู-ฮยอง (เกาหลีใต้) 68-67-70-66 รับเงินรางวัลคนละ 130,666 บาท
5. 274 (-10)-นิรันดร์ แซ่อึ้ง 68-67-71-68 รับเงินรางวัล 75,000 บาท
6. 275 (-9)-ปวิธ ตั้งกมลประเสริฐ 69-68-68-70, สุธีพัทธ์ ประทีปเธียรชัย 71-69-68-67 รับเงินรางวัลคนละ 56,550 บาท
8. 276 (-8)-พรหม มีสวัสดิ์ 70-66-70-70, ชัพชัย นิราช 67-71-72-66, ภันกร อุทัยพัฒน์ 69-69-70-68, ณัฐวัฒน์ สุวจนกรณ์ 74-63-68-71 รับเงินรางวัลคนละ 40,800 บาท
12. 277 (-7)-ภวินท์ อิงคะประดิษฐ์ 70-71-67-69, ปรม ชันซื่อ 65-73-71-68 รับเงินรางวัลคนละ 32,300 บาท