จัสมิน,ปภังกร,บูติเยร์สาวเลือดไทยดวลแอลพีจีเอหลังโควิด

โปรจัสมิน สุวัณณะปุระ

โปรจัสมิน สุวัณณะปุระ และ"เหมียว"ปภังกร ธวัชธนกิจ สองโปรสาวไทย พร้อมทั้งเซลีน บูติเยร์ โปรสาวเลือดไทยจากฝรั่งเศสจะร่วมแข่งขันรายการแอลพีจีเอ ไดรฟ์ ออน แชมเปี้ยนชิพ ที่รัฐโอไฮโอ ประเทศสหรัฐอเมริกา ระหว่างวันที่ 31 กรกฎาคม-2 สิงหาคม นี้ นับเป็นรายการแรกที่แอลพีจีเอทัวร์กลับมาแข่งขัน หลังจากสถานการณ์การระบาดของเชื้อโควิด-19 เริ่มดีขึ้นเป็นการกลับมาแข่งขันครั้งแรกในรอบกว่า 5 เดือน และจะแข่งขันติดต่อกันไปจนกระทั่งถึงเดือนกลางเดือนธันวาคม
จากการระบาดของเชื้อโควิด-19 ที่ประเทศจีน เมื่อปลายปีที่แล้ว และแพร่กระจายไปในประเทศต่างๆในเอเชีย และทั่วโลกช่วงต้นปีนี้จนกระทั่งกีฬาต่างๆต้องหยุดทำการแข่งขันรวมทั้งกอล์ฟแอลพีจีเอทัวร์ซึ่งเริ่มต้นประกาศยกเลิก 3 รายการในไทย สิงคโปร์ และจีน เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ถึงต้นเดือนมีนาคมพร้อมกับเลื่อนอีกหลายๆรายการแต่ไม่สามารถแข่งขันได้เลยเมื่อการระบาดในสหรัฐอเมริกานั้นรุนแรงมากขึ้นรวมเวลาถึงการแข่งขันรายการแอลพีจีเอ ไดรฟ์ ออน แชมเปี้ยนชิพ ที่แอลพีจีเอทัวร์ตัดสินใจประกาศให้กลับมาแข่งขันรายการแรกที่รัฐโอไฮโอ ระหว่างวันที่ 31 กรกฎาคม-2 สิงหาคม นี้ นั้นรวมเวลากว่า 5 เดือน

จัสมิน สุวัณณะปุระ

กอล์ฟรายการนี้เป็นรายการใหม่เพิ่งบรรจุเข้าในโปรแกรมของแอลพีจีเอทัวร์ในปีนี้ และแข่งขันที่อินเวอร์เนส คลับ ระยะ 6,852 หลา พาร์ 72(36-36) ชานเมืองโทลีโด รัฐโอไฮโอ ประเทศสหรัฐอเมริกา มีเงินรางวัลให้ชิงชัยรวม 1 ล้านดอลลาร์หรือราว 32 ล้านบาท แชมป์จะได้รับ 150,000 ดอลลาร์หรือราว 4.8 ล้านบาท แข่งขันแบบสโตรกเพลย์ 54 หลุม มีนักกอล์ฟเข้าแข่งขันรวม 135 คน ตัดตัวที่อันดับ 70 หรือร่วมเมื่อผ่านไป 36 หลุมเพื่อนำนักกอล์ฟเข้าไปแข่งขันในรอบสุดท้าย แต่ยังไม่อนุญาตให้แฟนกอล์ฟเข้าไปชมในสนาม
เนื่องจากมาตรการที่ทางรัฐบาลสหรัฐอเมริกา และรัฐบาลท้องถิ่นนั้นต้องให้นักกอล์ฟต่างชาติที่จะเข้าร่วมแข่งขันนั้นต้องเดินทางไปกักตัวก่อน 14 วันทำให้นักกอล์ฟนานาชาติจำนวนมากยังไม่เดินทางกลับเข้าไปเช่นเดียวกับนักกอล์ฟไทยมีแค่โปรจัสมิน สุวัณณะปุระ และ"โปรเหมียว"ปภังกร ธวัชธนกิจ ที่อยู่ในสหรัฐอเมริกาอยู่แล้ว
โปรจัสมิน วัย 27 ปี แชมป์อาชีพในแอลพีจีเอทัวร์ 2 รายการร่วมแข่งขันทั้งหมดใน 4 รายการแรกของแอลพีจีเอทัวร์ปีนี้โดยอันดับดีที่สุดจบลงที่ 17 รายการไดมอนด์ รีสอร์ท ทัวร์นาเมนท์ ออฟ แชมเปี้ยนส์ เปิดฤดูกาล แต่ไม่ผ่านตัดตัวรยาการวีเมนส์ ออสเตรเลี่ยน โอเพ่น ที่ประเทศออสเตรเลียรายการสุดท้ายที่แข่งขันของแอลพีจีเอทัวร์ในปีนี้ก่อนจะเลื่อนการแข่งขันเพราะปัญหาการระบาดของเชื้อโควิด-19

ปภังกร ธวัชธนกิจ

ส่วนปภังกร วัย 20 ปี เล่นในฐานะรุกกี้ของทัวร์แข่งขันไปแล้ว 3 รายการผ่านตัดตัวแค่รายการเกนบริดจ์ แอลพีจีเอ ที่รัฐฟลอริด้า จบลงอันดับ 35 ร่วมหลังจากนั้นไม่ผ่านตัดตัวใน 2 รายการที่ออสเตรเลียก่อนจะหยุดแข่งขันเพราะปัญหาการระบาดของเชื้อโควิด-19

เซลีน บูติเยร์ 

แฟนกอล์ฟชาวไทยยังได้ลุ้นเชียร์ให้กำลังใจกับเซลีน บูติเยร์ โปรสาวสายเลือดไทยจากฝรั่งเศสซึ่งปีนี้สร้างผลงานดีไม่น้อยแข่งขันไป 4 รายการจบลงใน 10 อันดับแรก 3 รายการโดยจบลงอันดับ 9 ไดมอนด์ รีสอร์ท ทัวร์นาเมนท์ ออฟ แชมเปี้ยนส์ อันดับ 4 รายการเกนบริดจ์ แอลพีจีเอ 2 รายการแรกที่รัฐฟลอริด้า ประเทศสหรัฐอเมริกา แม้ว่าจะไม่ผ่านตัดตัวรายการวิค โอเพ่น ที่ประเทศออสเตรเลีย ซึ่งเธอคว้าแชมป์เมื่อปี 2019 แต่ก็จบลงอันดับ 6 ร่วมวีเมนส์ ออสเตรเลี่ยน โอเพ่น ที่ออสเตรเลีย เมื่อกลางเดือนกุมภาพันธ์ รายการสุดท้ายของแอลพีจีเอทัวร์ที่แข่งขันก่อนหยุดยาวเพราะว่าการระบาดของเชื้อโควิด-19

อี มินจี

นอกจากนี้แล้วยังมีนักกอล์ฟระดับชั้นของทัวร์เข้าร่วมแข่งขันทั้งเนลลี่ ตอร์ดา โปรสาวชาวอเมริกันมืออันดับ 2 ของโลก เดเนียล คัง โปรชาวอเมริกันเชื้อสายเกาหลีมืออันดับ 5 ของโลก อี มินจี โปรสาวชาวออสเตรเลี่ยนเชื้่อสายเกาหลีมืออันดับ 8 ของโลก เล็กซี่ ธอมพ์สัน โปรชาวอเมริกันมืออันดับ 9 ของโลก การ์โลตา ชีกานดา โปรสาวจากสเปนมืออันดับ 15 ของโลก เจสซิก้า คอร์ดา มืออันดบั 16 และลีเซตต์ ซาลาส มืออันดับ 19 ของโลกสองสาวชาวอเมริกัน

เล็กซี่ ธอมพ์สัน

และยังมีนักกอล์ฟ 3 นักกอล์ฟที่คว้าแชมป์ในปีนี้ทั้งกาบี โลเปซ โปรสาวชาวเม็กซิกันแชมป์ไดมอนด์ส รีสอร์ท ทัวร์นาเมนท์ ออฟ แชมเปี้ยนส์ มาเดอเลียน ซักสตรอม จากสวีเดนแชมป์เกนบริดจ์ แอลพีจีเอ 2 รายการแรกของฤดูกาล และพัค ฮี-ยอง โปรสาวจากเกาหลีใต้แชมป์ฮันดะ วิค โอเพ่น ที่ประเทศออสเตรเลีย แต่ไม่มี โค จิน-ยอง มือ 1 ของโลก พัค อินบี และยู โซ-ยอน สองอดีตมือ 1 ของโลก รวมทั้งอี ชอง-อึน 6 แชมป์ยูเอส วีเมนส์ โอเพ่น ปี 2019 และนักกอล์ฟระดับชั้นนำจากเกาหลีใต้อีกหลายคนที่ยังอยู่ที่เกาหลีใต้บ้านเกิดยังไม่เดินทางไปสหรัฐอเมริกา

เนลลี่ ตอร์ดา โปรสาวชาวอเมริกันมือ 2 ของโลก

หลังจากรายการนี้แอลพีจีเอทัวร์ยังคงอยู่ที่รัฐโอไฮโอ ย้ายจากเมืองโทลีโด ไปซิลเวเนีย ในรายการมาราธอน คลาสสิก ระหว่างวันที่ 6-9 สิงหาคม 2563 ชิงเงินรางวัลรวม 1.7 ล้านดอลลาร์หรือราว 54.4 ล้านบาท