ปาจรีย์ สร้างประวัติศาสตร์ไทยคนแรกแชมป์แอลพีจีเอ แมทช์เพลย์
"เมียว" ปาจรีย์ อนันต์นฤการ ฟอร์มร้อนแรงเอาชนะ อายากะ ฟุรึเอะ จากญี่ปุ่น 3 และ 1 ในรอบชิงชนะเลิศ กอล์ฟรายการ แบงค์ ออฟ โฮป แอลพีจีเอ แมทช์ เพลย์ ที่ชาโดว์ ครีก ชานเมืองลาสเวกัส รัฐเนวาดา ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันอาทิตย์ ที่ 28 พฤษภาคม 2566 คว้าแชมป์ไปครองเป็นแชมป์ที่สองในการเล่นอาชีพแอลพีจีเอ ทัวร์ และเป็นนักกอล์ฟไทยคนแรกที่คว้าแชมป์รายการนี้ รับเงินรางวัลไปราว 7.8 ล้านบาท
การแข่งขันกอล์ฟรายการแบงค์ ออฟ โฮป แอลพีจีเอ แมทช์ เพลย์ ระหว่างวันที่ 24-28 พฤษภาคม 2566 ชิงเงินรางวัลรวม 1.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 52.3 ล้านบาท นำเอายอดนักกอล์ฟในแอลพีจีเอ ทัวร์ 64 คนเข้าร่วมแข่งขันแบบแมทช์เพลย์ โดยแบ่งออกเป็น 16 กลุ่ม ๆ ละ 4 คน ในรอบแบ่งกลุ่มแข่งขันแบบพบกันหมด นำเอาแชมป์กลุ่มเข้าไปเล่นในรอบ 16 คนสุดท้าย
ปีนี้มีนักกอล์ฟไทยร่วมแข่งขัน 3 คนคือ "เมียว" ปาจรีย์ อนันต์นฤการ "แหวน" พรอนงค์ เพชรล้ำ และ "ว่าน" จารวี บุญจันทร์ โดย ปาจรีย์ เพียงคนเดียวที่ผ่านเข้าไปเล่นรอบน็อคเอ๊าต์แม้ว่าจะแพ้แมทช์สุดท้ายของรอบแบ่งกลุ่ม และต้องเล่นเพลย์ออฟตัดสินเข้าไปจนกระทั่งเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศ
ปาจรีย์ วัย 23 ปี เข้าสู่รอบชิงชนะเลิศเป็นครั้งแรกหลังจากเล่นรอบรองชนะเลิศช่วงเช้าวันอาทิตย์ที่ 28 พฤษภาคม เอาชนะ ลินน์ แกรนท์ จากสวีเดนมาได้ 3 และ 1 เข้าไปพบกับ อายากะ ฟุรึเอะ จากญี่ปุ่นรองแชมป์เมื่อปีที่แล้วที่เอาชนะ เลโอนา แม็กไกวร์ จากไอร์แลนด์มาได้ 2 และ 1
การแข่งขันในรอบชิงชนะเลิศช่วงบ่ายวันอาทิตย์ อายากะ ออกนำก่อนหลังทำเบอร์ดี้หลุม 2 แต่ ปาจรีย์ ตอบกลับชนะด้วยเบอร์พาร์หลุม 3 ก่อนที่จะชนะในหลุม 5 นำ 1 อัพ จากนั้นโปรจากญี่ปุ่นชนะด้วยเบอร์ดี้หลุม 6 กลับมาเสมอกันอีกครั้ง แต่ปาจรีย์ ชนะในหลุมถัดมานำอีกครั้ง 1 อัพ และชนะด้วยเบอร์ดี้หลุม 12 นำห่างไป 2 อัพ แม้ว่า อายากะ ปลดได้ในหลุม 13 พาร์ 3 แต่ปาจรีย์ จะชนะในหลุมถัดมานำ 2 อัพอีกครั้ง และนำ 2 อัพเมื่อเหลือสองหลุมสุดท้ายจากนั้นปาจรีย์ ชนะในหลุม 17 พาร์ 3 ทำให้ชนะไป 3 และ 1 คว้าแชมป์ไปครองพร้อมกับรับเงินรางวัล 225,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 7.8 ล้านบาท
โปรเมียว กล่าวหลังการคว้าแชมป์ว่า “การเล่นในสัปดาห์นี้ ได้โฟกัสกับสิ่งที่กำลังอยู่ ถือว่าสัปดาห์นี้ทำได้ดี ดีใจที่สามารถคว้าแชมป์ได้ หวังว่าจะเป็นกำลังใจให้ตัวเองแล้วก็พยายามฝึก และพัฒนาตัวเองต่อไป กอล์ฟก็มีโอกาสให้เราอีกหลายรายการ และเราต้องพยายามพัฒนา เพราะเกมส์กอล์ฟไม่มีที่สิ้นสุด”
เธอกล่าวอีกว่า “ก่อนหน้านี้มีอะไรหลายๆ อยากที่อยากจะพัฒนา อาจจะมีบางช่วงที่ไม่ได้เล่นดีมาก แต่ก็มีคนที่คอยสนับสนุนคอยเป็นกำลังใจให้ในการพัฒนาเรื่องของกอล์ฟ ต้องขอขอบคุณทุกคนที่คอยสนับสนุนตลอดมา และคอยอยู่เคียงข้างเมียวมาตลอด รู้สึกดีใจ และขอบคุณจริง ๆ เมียวยังต้องเรียนรู้อะไรอีกเยอะ หวังว่าแชมป์นี้ก็จะทำให้เมียวพัฒนาฝีมือต่อไป”
ปาจรีย์ คว้าแชมป์ที่สองในการเล่นกอล์ฟอาชีพแอลพีจีเอ ทัวร์ หลังจากครั้งแรก ในรายการไอเอสพีเอส ฮันดะ เวิลด์ อินวิเทชันแนล ที่ไอร์แลนด์เหนือ เมื่อปี 2021 และเป็นนักกอล์ฟไทยคนแรกที่คว้าแชมป์ในแอลพีจีเอ ทัวร์ปีนี้ แม้ว่าสองสัปดาห์ก่อนหน้านี้ทีมไทยจะคว้า แชมป์อินเตอร์ เนชันแนล คราวน์ ซึ่งมี โมรียา-เอรียา จุฑานุกาล, อาฒยา ฐิติกุล และ ปภังกร ธวัชธนกิจ
สำหรับผลงานในแอลพีจีเอ ทัวร์ ปีนี้ ปาจรีย์ เล่นไป 9 รายการคว้าแชมป์ 1 รายการโดยใน 8 รายการแรกจบลงใน 20 อันดับแรก 2 รายการ คืออันดับ 18 ร่วมรายการทัวร์นาเมนท์ ออฟ แชมเปียนส์ และ แอลเอ โอเพ่น
การคว้าแชมป์ครั้งนี้ทำให้ ปาจรีย์ กลายเป็นนักกอล์ฟไทยคนที่ 5 ที่คว้าแชมป์มากกว่า 1 รายการในการเล่นอาชีพแอลพีจีเอ ทัวร์ต่อจาก "เม" เอรียา จุฑานุกาล 12 รายการ "โม" โมรียา จุฑานุกาล, จัสมิน สุวัณณะปุระ และ "จีน" อาฒยา ฐิติกุล คนละ 2 รายการ
Comments
Post a Comment