แคมพ์เบล คว้าแชมป์ ฮ่องกง โอเพ่น,พชร จบที่สามร่วม
"เพชร" พชร คงวัดใหม่ พลาดเสียโบกี้หลุมสุดท้ายสกอร์ 1 อันเดอร์พาร์ 69 ในวันสุดท้ายสกอร์รวมสี่วัน 17 อันเดอร์พาร์ 263 รั้งอันดับ 3 ร่วมกอล์ฟอินเตอร์เนชั่นแนลซีรีส์ รายการ “ฮ่องกง โอเพ่น” ที่สนามฮ่องกง กอล์ฟ คลับ พาร์ 70 เขตปกครองพิเศษฮ่องกง ของจีนจบลงเมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 2566 โดยที่ เบน แคมพ์เบลล์ นักกอล์ฟหนุ่มจากนิวซีแลนด์ ทำเบอร์ดี้ในหลุมสุดท้ายเบียดแซงคว้าแชมป์ด้วยสกอร์รวม 19 อันเดอร์พาร์ 261 เฉือนชนะ แคเมอรอน สมิธ แขมป์เมเจอร์จากออสเตรเลียไปเพียงสโตรกเดียวนับเป็นแชมป์อาชีพครั้งแรกในเอเชียน ทัวร์
เอเชียน ทัวร์ จัดการแข่งขันอินเตอร์เนชั่นแนล ซีรีส์ รายการ ฮ่องกง โอเพ่น ชิงเงินรางวัลรวม 2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 70 ล้านบาท ณ สนามฮ่องกง กอล์ฟ คลับ ระยะ 6,710 หลา พาร์ 70 ในเขตฟานหลิง เขตปกครองพิเศษฮ่องกง ของจีน ระหว่างวันที่ 9-12 พฤศจิกายน 2566 มีโปรกอล์ฟชื่อดังของโลกตบเท้าเข้าชิงชัยกับเหล่าผู้เล่นแถวหน้าของทัวร์ อย่างเช่น แคเมอรอน สมิธ มือ 20 ของโลกจากออสเตรเลีย, แพทริก รีด แชมป์เดอะ มาสเตอร์ส ปี 2018 จากสหรัฐฯ, แกรม แม็คดาวล์ แชมป์ยูเอส โอเพ่น ปี 2010 จากไอร์แลนด์เหนือ ทั้งนี้มีนักกอล์ฟชาวไทยผ่านตัดตัวได้ทั้งสิ้น 17 คน
พชร คงวัดใหม่ |
วันสุดท้ายเมื่อวันอาทิตย์ที่ 12 พฤศจิกายน พชร คงวัดใหม่ นักกอล์ฟระดับชั้นนำของเอเชียนทัวร์ และ แคเมอรอน สมิธ โปรมือ 20 ของโลกจากออสเตรเลีย ออกสตาร์ทในตำแหน่งผู้นำร่วมที่สกอร์คนละ 16 อันเดอร์พาร์ โดยมี เบน แคมพ์เบลล์ ดาวรุ่งจากนิวซีแลนด์ลงเล่นในกลุ่มเดียวกันด้วยสกอร์ตามหลังหนึ่งสโตรก
พชร มีโอกาสทำสกอร์ขึ้นนำที่สกอร์ 19 อันเดอร์พาร์ เมื่อจบหลุม 13 ทว่าไปพลาดทีออฟเข้าป่าในหลุม 16 เสียดับเบิ้ลโกบี้ ก่อนแก้คืนด้วยเบอร์ดี้ในหลุมถัดมา สกอร์ขึ้นมาที่ 18 อันเดอร์เท่ากับสมิธและแคมพ์เบลเมื่อเหลือการเล่นเพียงหลุมเดียว ก่อนที่แคมพ์เบลเป็นฝ่ายพัตต์เบอร์ดี้แชมป์ด้วยการจบ 18 หลุมเข้ามาอีก 4 อันเดอร์พาร์ 66 สกอร์รวมสี่วัน 19 อันเดอร์พาร์ 261 เฉือนชนะ แคมพ์เบล ที่ทำพาร์ในหลุมสุดท้ายเข้ามาสกอร์ 2 อันเดอร์พาร์ 68 ไปเพียงสโตรกเดียว
แคเมอรอน สมิธ |
พชร พลาดเสียโบกี้ในหลุมสุดท้าย ทำให้สกอร์ 18 หลุมเหลือ 1 อันเดอร์พาร์ 69 รวมสี่วันมี 17 อันเดอร์พาร์ 263 จบอันดับสามร่วมกับ ริชาร์ด ทีอี นักกอล์ฟหนุ่มเชื้อสายเกาหลีจากแคนาดา ที่เครื่องร้อนวันสุดท้ายหวด 6 อันเดอร์พาร์ 64 แบ่งเงินรางวัลไปคนละ 113,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 4 ล้านบาท
เบน แคมพ์เบลล์ |
ขณะที่ แคมพ์เบลคว้าเงินรางวัลแชมป์ไป 360,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 12.6 ล้านบาท ส่วน สมิธ รับไป 220,000 ดอลลาร์หรือราว 7.7 ล้านบาท
พชร ยังไล่ล่าแชมป์เอเชียน ทัวร์ รายการที่สองให้ตัวเองเผยว่า “วันนี้ตีมาดีตลอด แต่พัตต์อาจไม่เฉียบคมเท่ากับ 2-3 วันแรก มาพลาดตีเข้าป่าหลุม 16 ซึ่งอยู่ในสถานการณ์ที่ยาก และทำอะไรไม่ได้ ซึ่งเป็นจังหวะที่ยาก ณ ขณะนั้น และมีต้นไม้หักที่เป็นอุปสรรค จะถอยหลังดรอปก็ไม่ได้ ก็ต้องพยายามตีต่อ โดยรวมวันนี้ยังทำสกอร์อันเดอร์อยู่ถือว่าใช้ได้ และมีโอกาสเล่นให้แฟนๆ ให้เชียร์ก็พอใจ สัปดาห์นี้ได้ขับเคี่ยวกับมือดีของโลกอย่างคาเมรอนก็รู้สึกเป็นเกียรติ และถือว่าตัวเองทำได้ดี แค่มันยังไม่ใช่วันของเรา”
เบน แคมพ์เบล |
ผลงานนักกอล์ฟไทยที่น่าสนใจ อิทธิพัทธ์ บูรณธัญรัตน์ หวดเข้ามา 4 อันเดอร์พาร์ 66 จากการทำ 3 เบอร์ดี้ กับ 1 อีเกิ้ล แต่พลาดเสียโบกี้ในหลุมสุดท้าย รวมสี่วันมี 13 อันเดอร์พาร์ 267 จบที่อันดับ 12 ร่วมกับ แกรม แม็คดาวล์ แชมป์ยูเอส โอเพ่น ปี 2010 จากไอร์แลนด์เหนือ และชาน ชิ-ชาง จอมเก๋าจากไชนีสไทเป ส่วนโปรแจ๊ส-อติวิชญ์ เจนวัฒนานนท์ และ สดมภ์ แก้วกาญจนา จบด้วยสกอร์รวมคนละ 12 อันเดอร์พาร์ 268 ตามมาที่อันดับ 15 ร่วมกับ แพทริก รีด แชมป์เดอะ มาสเตอร์ส ปี 2018 และแอนดี้ โอเกิลทรี มือหนึ่งอินเตอร์เนชันแนล ซีรีส์ ออเดอร์ ออฟ เมอริต สองโปรชาวอเมริกัน
ติดตามข่าวสารของเอเชียน ทัวร์ ได้ที่เว็บไซต์ www.asiantour.com และเฟซบุค Asian Tou
Comments
Post a Comment