“อาฒยา” ยึดแชมป์ปิดฤดูกาลรับกว่า 138 ล้านพร้อมยึดมือหนึ่งทัวร์แอลพีจีเอ

               "จีโน่" อาฒยา ฐิติกุล โปรสาววัย 21 ปี โชว์ฟอร์มยอดเยี่ยมจากไล่ตาม 2 สโตรกทำอีเกิ้ล และเบอร์ดี้หลุม 17-18 ทำสกอร์ 7 อันเดอร์พาร์ 65 ในวันสุดท้ายกอล์ฟซีเอ็มอี กรุ๊ป ทัวร์ แชมเปียนชิพ ที่รัฐฟลอริดา ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันอาทิตย์ที่ 24 พฤศจิกายน 2567 สกอร์รวม 22 อันเดอร์พาร์ 266 เฉือนชนะ แองเจิล หยิน โปรสาวชาวอเมริกันไปหนึ่งสโตรกคว้าแชมป์ไปครองเป็นครั้งแรกพร้อมกับรับเงินรางวัลก้อนโต 4 ล้านดอลลาร์หรือราว 138 ล้านมากที่สุดในประวัติศาสตร์กอล์ฟหญิง และครองมือ 1 ของทัวร์ทำเงินรางวัลกว่า 208.8 ล้านบาท

               การแข่งขันกอล์ฟรายการซีเอ็มอี กรุ๊ป ทัวร์ แชมเปียนชิพ รายการสุดท้ายแห่งปีของแอลพีจีเอ ทัวร์ ที่ทีบูรอน กอล์ฟ คลับ ในเมืองเนเพิลส์ รัฐฟลอริดา ประเทศสหรัฐอเมริกา ระหว่างวันที่ 21-24 พฤศจิากยน 2567 ชิงเงินรางวัลรวม 11 ล้านดอลลาร์หรือราว 380.3 ล้านบาท นำเอานักกอล์ฟ 60 อันดับ และเสมอจากคะแนนสะสมเรซ ทู เดอะ ซีเอ็มอี โกลบ แข่งขันแบบสโตรกเพลย์ 72 หลุมไม่มีตัดตัว   

               ผ่านไปสามวันแรก "จีโน่" อาฒยา ฐิติกุล นำร่วมกับ แองเจิล หยิน จากสหรัฐอเมริกา และการเริ่มต้นในวันสุดท้ายเมื่อวันอาทิตย์ที่ 24 พฤศจิกายน อาฒยา ทำเบอร์ดี้หลุม 1 พาร์ 5 ทำให้เธอหนีไปนำหนึ่งสโตรกรวม 16 อันเดอร์พาร์ และนำ 2 สโตรกเมื่อทำเบอร์ดี้หลุม 3 พาร์ 4 รวมขึ้นไป 17 อันเดอร์พาร์ ก่อนจะไปพลาดเสียโบกี้หลุม 4 โดยที่ หยิน ทำเบอร์ดี้ในหลุมเดียวกันกลับมานำร่วมกันอีกครั้ง

               อย่างไรก็ตาม อาฒยา ทำเบอร์ดี้หลุม 7 พาร์ 4 ทำให้กลับไปนำอีกครั้งที่สกอร์รวม 17 อันเดอร์พาร์ ก่อนที่ หยิน จะทำเบอร์ดี้หลุม 8 ขึ้นไปนำร่วม และหยิน นำครั้งแรกเมื่อทำเบอร์ดี้หลุม 10 พาร์ 4 รวม 18 อันเดอร์พาร์ และทำเบอร์ดี้ 12 หนีไปสองสโตรกสกอร์รวม 19 อันเดอร์พาร์ แต่อาฒยา ทำเบอร์ดี้หลุม 13 ไล่มาเหลือหนึ่งสโตรก และทั้งสองทำเบอร์ดี้หลุม 14 พาร์ 5 อาฒยา จี้ติด 19 อันเดอร์พาร์ หยิน รวม 20 อันเดอร์พาร์ อย่างไรก็ตาม หยิน ทำเบอร์ดี้หลุม 16 พาร์ 3 นำห่างสองสโตรกรวม 21 อันเดอร์พาร์เมื่อเหลืออีกสองหลุมสุดท้ายสถานะการณ์ของ อาฒยา ต้องทำเบอร์ดี้เพื่อไปเพลย์ออฟหากหยินไม่เสีย

               แต่หลุม 17 พาร์ 5 อาฒยาต ขี้นช็อตสองออนกรีน และทำอีเกิ้ลในหลุมนี้รวม 21 อันเดอร์พาร์ ขณะที่ หยิน นั้นพัตต์เบอร์ดี้ระยะ 5 ฟุตพลาดจึงทำให้อาฒยานำร่วมเมื่อเข้าสู่หลุมสุดท้ายซึ่งทั้งสองตีไปอยู่ในแฟร์เวย์ โดยอาฒยา แอพโพรชขึ้นไปห่างธงราว 4 ฟุต ส่วน หยิน ห่าง 25 ฟุตพัตต์เบอร์ดี้ไกลไม่ลงก่อนแทปอินพาร์สกอร์ 6 อันเดอร์พาร์ 66 รวม 21 อันเดอร์พาร์ 267 และอาฒยา พัตต์ไม่พลาดทำเบอร์ดี้ลงไปทำสกอร์ 7 อันเดอร์พาร์ 65 รวม 22 อันเดอร์พาร์ 266 คว้าแชมป์ไปครอง

ปาจรีย์ อนันต์นฤการ (ขวา) ราดแชมเปญแสดงความยินดีกับ อาฒยา หลังคว้าแชมป์

               อาฒยา คว้าแชมป์รายการนี้เป็นครั้งแรกรับเงนรางวัล 4 ล้านดอลลาร์หรือราว 138.3 ล้านบาทซึ่งเป็นเงินรางวัลแชมป์มากที่สุดในประวัติศาสตร์กอล์ฟหญิง นับเป็นแชมป์ที่สองของเธอในปีนี้ต่อจากแชมป์ทีมดาว แชมเปียนชิพ คู่กับ หยิน ยัวหนิง จากจีน และเป็นแชมป์ที่สี่ในการเฃ่นอาชีพแอลพีจีเอ ทัวร์ต่อจากแชมป์รายการเจทีบีซี คลาสสิก และวอลมาร์ท เอ็นดับเบิลยู อาร์คันซอ แชมเปียนชิพ เมื่อปี 2022 และเป็นแชมป์ที่ 6 ของนักกอล์ฟไทยในแอลพีจีเอ ทัวร์ปีนี้ร่วมกับ ปภังกร ธวัชธนกิจ แชมป์ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ ชเนตตี วรรณแสน แชมป์เดนา โอเพ่น โมรียา จุฑานุกาล แชมป์พอร์ทแลนด์ คลาสสิก และจัสมิน สุวัณณะปุระ แชมป์วอลมาร์ท เอ็นดับเบิลยู อาร์คันซอ แชมเปียนชิพ

แชมป์ปิดฤดูกาล

               ขณะนี้ อาฒยา ครองมือหนึ่งของแอลพีจีเอ ทัวร์ปีนี้ในฐานะทำเงินรางวัลรวมสูงสุด 6,059,309 ดอลลาร์หรือราว 208.8 ล้านลาท (208,894.364) และเมื่อรวมกับเงินรางวัล The Aon Risk Reward Challenge อีก 1 ล้านดอลลาร์ทำให้ปีนี้เธอทำเงินรางวัลรวมเป็น 7,059,309 ดอลลาร์หรือราว 243.3 ล้านบาท (243.369312) จากการเล่น 17 รายการ สถิติจบลงใน 10 อันดับแรกมากถึง 12 รายการ

               อามยา อดีตมือ 1 ของโลกเผยหลังการคว้าแชมป์ว่า "หนูไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นที่หลุม 17 และ18 หากหนูทำเบอร์ดี้หลุม 17 จะทำให้หนูมีโอกาส แต่การทำอีเกิ้ลมันทำให้หนูมีโอกาสมากยิ่งกว่า และหลุม 18 เมื่อตีดีทำให้ขึ้นช็อตสองดีด้วย และได้พัตต์มันเป็นการเล่นที่ยากมากเท่าที่เคยทำมาซึ่งมันเหมือนเพลย์ออฟเลย หนูเคยพูดกับตัวเองว่ามีเงินเป็นล้านดอลลาร์แล้วจากรางวัลเอออน หนูคิดถึงจุดนั้นว่าหนูไม่คิดเกี่ยวกับเงินรางวัลมากมายนี้ อย่างลีเดีย โค เคยพูดเอาไว้ในรายการแกรนท์ ธอร์นทัน ว่าพวกเราไม่ได้ที่นี่เพื่อเงิน แต่พวกเรามาเพื่อการพัฒนาเกมกอล์ฟให้มากยิ่งขึ้น"

               แองเจิล หยิน จบอันดับสองรับเงินรางวัล 1 ล้านดอลลาร์ ลีเดีย โค โปรสาวชาวอเมริกันอดีตมือ 1 ของโลกเคยคว้าแชมป์รายการนี้มาสองครั้งจบอันดับ 3 หลังทำสกอร์ 9 อันเดอร์พาร์ 93 รวม 17 อันเดอร์พาร์ 271 รับเงินรางวัล 550,000 ดอลลาร์ ตามมาด้าย หยิน ยัวหนิง จากจีน 16 อันเดอร์พาร์ 272 อันดับ 4 รับเงินรางวัล 350,000 ดอลลาร์

               เนลลี คอร์ดา มือ 1 ของโลกจากสหรัฐอเมริกา และ อาน นาริน จากเกาหลีใต้จบอันดับ 5 ร่วมสกอร์รวม 15 อันเดอร์พาร์ 273 รับเงินรางวัลคนละ 227,500 ดอลลาร์ ส่วน เอมี ยาง จากเกาหลีใต้แชมป์เมื่อปีที่แล้วจบอันดับ 8 ร่วมสกอร์รวม 13 อันเดอร์พาร์ 275

อายากะ ฟุรึเอะ รับรางวัลวาร์โทรฟี อาฒยา ฐิติกุล แชมป์ซีเอ็มอีฯ และ มาโอะ ไซโหงะ รับรางวัลรุกกี้แห่งปี

               อายากะ ฟุรึเอะ ทำสกอร์ 4 อันเดอร์พาร์ 68 รวม 13 อันเดอร์พาร์ 275 จบอันดับ 8 ร่วม และเธอได้รับรางวัลวาร์โทรฟี (Vare Trophy) ในฐานะนักกอล์ฟทำสกอร์เฉลี่ยต่ำสุดของฤดูกาลกลายเป็นนักกอล์ฟญี่ปุ่นคนแรกที่คว้ารางวัลนี้ และมาโอะ ไซโหงะ จากญี่ปุ่นจบอันดับ 25 ร่วมรวม 8 อันเดอร์พาร์ 280 พร้อมกับรับรางวัลรุกกี้แห่งปี

               สำหรับผลงานนักกอล์ฟไทยคนอื่น ๆ "เม" เอรียา จุฑานุกาล อดีตแชมป์รายการนี้สกอร์รวม 10 อันเดอร์พาร์ 278 อันดับ 19 ร่วมรับเงินรางวัล 80,167 ดอลลาร์ "พราว" ชเนตตี วรรณแสน,จัสมิน สุวัณณะปุระ และ "เมียว" ปาจรีย์ อนันต์นฤการ รวม 7 อันเดอร์พาร์  281 อันดับ 30 ร่วม รับเงินรางวัล 68,500 ดอลลาร์ "เปียโน" อาภิชญา ยุบล รวมอีเวนพาร์ 288 อันดับ 52 ร่วม รับเงินรางวัล 56,750 ดอลลาร์ "โม" โมรียา จุฑานุกาล รวม 1 โอเวอร์พาร์  289 อันดับ 55 ร่วมรับเงินรางวัล 56,000 ดอลลาร์ และ "แพตตี้" ปภังกร ธวัชธนกิจ รวม 6 โอเวอร์พาร์ 294 จบอันดับ 60 รับเงินรางวัล 55,000 ดอลลาร์

               หลังจากนี้โปรแกรมของแอลพีจีเอ ทัวร์ จะมีรายการร่วมของแอลพีจีเอ-พีจีเอ ทัวร์ เป็นทีมผสมสองคน "แกรนท์ ธอร์นทัน อินวิเทชันแนล" ที่สนามแห่งเดียวกันนี้ ระหว่างวันที่ 13-15 ธันวาคม นี้ก่อนจะปิดฤดูกาลกลับมาแข่งขันฤดูกาลใหม่ในปลายเดือนมกราคมปีหน้า

เครดิตภาพ: LPGA/Getty Images