อาฒยา ผงาดยึดแชมป์ซีเอ็มอีฯ ปิดท้ายฤดูกาลควบรางวัลนักกอล์ฟยอดเยี่ยม และวาร์โทรฟี

 

"จีโน่" อาฒยา ฐิติกุล ยอดนักกอล์ฟมือหนึ่งของโลกโชว์ผลงานยอดเยี่ยมคว้าแชมป์ซีเอ็มอี กรุ๊ป ทัวร์ แชมเปียนชิพ สมัยที่สองติดต่อกันหลังจากทำสกอร์ 4 อันเดอร์พาร์ 68 ในวันสุดท้ายของการแข่งขันที่รัฐฟลอริดา ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันอาทิตย์ที่ 23 พฤศจิกายน 2568 สกอร์รวม 26 อันเดอร์พาร์ 262 ชนะ "เมียว" ปาจรีย์ อนันต์นฤการ รุ่นพี่จากประเทศไทยไปสี่สโตรกพร้อมกับรับเงินรางวัล 4 ล้านดอลลาร์หรือราว 129.5 ล้านบาทนับเป็นแชมป์ที่สามในปีนี้ และแชมป์ที่เจ็ดกับการเล่นอาชีพแอลพีจีเอทัวร์ทำสถิติเงินรางวัลรวมทะลุ 7 ล้านดอลลาร์คนแรกพร้อมกับรับรางวัลนักกอล์ฟยอดเยี่ยมแห่งปี และวาร์โทรฟีในฐานะนักกอล์ฟทำสกอร์เฉลี่ยต่ำที่สุดในประวัติศาสตร์ทัวร์อีกด้วย

การแข่งขันกอล์ฟซีเอ็มอี กรุ๊ป ทัวร์ แชมเปียนชิพ (CME Group Tour Championship) ชิงเงินรางวัลรวม 11 ล้านดอลลาร์หรือราว 356.3 ล้านบาท ที่สนามทีบูรอน กอล์ฟ คลับ พาร์ 72 ในเมืองเนเพิลส์ รัฐฟลอริดา ประเทศสหรัฐอเมริกา ระหว่างวันที่ 20-23 พฤศจิกายน 2568 นำเอานักกอล์ฟ 60 อันดับ และเสมอของคะแนนสะสมเรซทู ซีเอ็มอี โกลบเข้าร่วมชิงชัยเล่นแบบสโตรกเพลย์ 72 หลุมไม่มีตัดตัวแชมป์ได้รับเงินรางวัลไป 4 ล้านดอลลาร์หรือราว 129.5 ล้านบาท

วันสุดท้าย อาฒยา ฐิติกุล มือหนึ่งของโลกแชมป์เมื่อปีที่แล้วออกสตาร์ตในฐานะผู้นำโดยทิ้งห่าง ปาจรีย์ อนันต์ฤการ และเนลลี คอร์ดา อันดับสองอยู่ 6 สโตรก และเริ่มต้นทำเบอร์ดี้หลุมแรกแม้ว่าจะพลาดเสียโบกี้หลุมถัดมาแต่ทำทำเบอร์ดี้หลุม 6,10,13 และหลุมสุดท้ายสกอร์ 4 อันเดอร์พาร์ 68 รวมสี่วัน 26 อันเดอร์พาร์ 262 เกือบเท่ากับสถิติสกอร์ต่อสุดที่ เอมี ยาง ทำเอาไว้ 27 อันเดอร์พาร์ 261 เมื่อปี 2023 รับเงินรางวัล 4 ล้านดอลลาร์หรือราว 129.5 ล้านบาท ทำเงินรางวัลรวม 7,578,330 ดอลลาร์หรือราว 245.4 ล้านบาท จากการเล่น 20 รายการ เป็นคนแรกที่ทำเงินรางวัลรวมทะลุ 7 ล้านดอลลาร์ต่อหนึ่งฤดูกาลในประวัติศาสตร์แอลพีจีเอทัวร์ โดยที่แล้ว อาฒยา ทำ 6,059,309 ดอลลาร์จากการเล่น 17 รายการ ทำเงินรางวัลรวมในอาชีพทะลุ 17 ล้ายดอลลาร์เร็วที่สุดในทัวร์ และมากที่สุดของนักกอล์ฟไทยแซง เอรียา จุฑานุกาล

นักกอล์ฟสาวจากจังหวัดราชบุรีเผยหลังการคว้าแชมป์ว่า “จีนคิดว่าต้นสัปดาห์นี้จีนแค่บอกว่าต้องสามารถจบการแข่งขันกอล์ฟที่นี่ได้สี่รอบมากกว่าที่คาดหวังไว้แล้ว แต่การได้ยืนอยู่ตรงนี้พร้อมถ้วยรางวัลในวันอาทิตย์ ได้ถือถ้วยรางวัล มันมากกว่าที่คาดหวังไว้จริง ๆ แน่นอน ความพยายามทั้งหมดที่ผมทุ่มเทให้กับทีมในวันนี้ให้ผลตอบแทนที่นี่อีกครั้งจีนคิดว่ามันเป็นเกียรติอย่างยิ่ง แน่นอนว่าถ้วยรางวัลวาร์โทรฟี นักกีฬายอดเยี่ยมแห่งปีจะแสดงให้เห็นถึงความสม่ำเสมอของคุณตลอดฤดูกาลอันยาวนาน แต่การได้ถือถ้วยรางวัลนั้นทำให้รู้สึกขนลุก เพราะจีนคิดว่ามันได้ถ่ายทอดประวัติศาสตร์กอล์ฟจากผู้เล่นทุกคน"

เธอกล่าวอีกว่า "ตอนนี้ชีวิตจีนยังคงเหมือนเดิม ยังคงต้องตีลูกให้เหมือนเดิม ต้องพัตต์และชิพให้เหมือนเดิมแชมป์ทั้งหมดที่จีนมี ไม่มีใครแย่งไปจากจีนได้ แล้วจีนก็ไม่คิดว่าตัวเองเป็นคนพิเศษ ก็พิเศษเหมือนคนทั้งโลกนั่นแหละจีนคิดว่าจีนก็เป็นมนุษย์คนหนึ่งเหมือนกับทุก ๆ ท่าน ต้องทำงาน มีสิ่งที่ต้องทำ มีช่วงเวลาที่มีความสุข มีช่วงเวลาที่เศร้า คุณคงสรุปชีวิตได้ประมาณนี้”

อาฒยา คว้าแชมป์ที่สามในแอลพีจีเอทัวร์ปีนี้ต่อจากรายการมิซโฮ อเมริกา โอเพ่น และบิวอิค แอลพีจีเอ เชียงไฮ้ และเป็นแชมป์ที่เจ็ดในการเล่นอาชีพแอลพีจีเอก่อนหน้านี้คว้าแชมป์เจทีบีซี คลาสสิก 2022 วอลมาร์ต เอ็นดับเบิลยู อาร์คันซอ แชมเปียนชิพ 2023 และซีเอ็มอี กรุ๊ป ทัวร์ แชมเปียนชิพ 2024

เธอกลายเป็นนักกอล์ฟคนที่สองที่คว้าแชมป์รายการนี้สองสมัยติดต่อกันต่อจาก โค จิน-ยอง ปี 2020 และ2021 และเป็นนักกอล์ฟคนที่สามที่คว้าแชมป์ซีเอ็มอี กรุ๊ป ทัวร์ แชมเปียนชิพสองสมัยต่อจาก ลีเดีย โค ปี 2014 และ2022 และโค จิน-ยอง ปี 2020 และ2021 โดยผลงานในนแอลพีจีเอทัวร์ฤดูกาลนี้เล่น 20 รายการจบลงใน 10 อันดับแรกมากที่สุดในทัวร์รวม 14 รายการ

นอกจากนี้แล้ว อามยา ยังคว้ารางวัลนักกอล์ฟยอดเยี่ยมแห่งปี (Rolex Player of the Year)ด้วยคะแนนรวม 199 คะแนนชนะห่าง มิยู ยามาชิตะ โปรสาวจากญี่ปุ่นอันดับสอง 46 คะแนน กลายเป็นนักกอล์ฟไทยคนที่สองที่คว้ารางวัลนักกอล์ฟต่อจาก เอรียา จุฑานุกาล ทำได้ในปี 2016 และ2018 และรางวัลวาร์โทรฟี (Vare Trophy) ในฐานะนักกอล์ฟทำสกอร์เฉลี่ยต่ำสุดอยุ่ที่ 68.681 นับเป็นสถิติสกอร์ต่ำที่สุดในประวัติศาสตร์ทัวร์ทำลายสถิติของ อันนิกา โซเรนสตัม โปรจากสวีเดนทำเอาไว้ 68.696 และเป็นนักกอล์ฟคนที่สามที่ทำสกอร์เฉลี่ยต่ำ 69 ต่อจาก อันนิกา ปี 2002 และลีเดีย โค ปี 2022 ทำให้เธอก้าวตามเอรียาที่คว้าสองรางวัลนี้ในปีเดียวกันซึ่งเอรียาทำในปี 2018 และเป็นนักกอล์ฟคนแรกที่คว้าสองรางวัลตั้งแต่ ลีเดีย โค เคยทำในปี 2022   

  สำหรับ ปาจรีย์ อนันต์นฤการ เจ้าของแชมป์แอลพีจีเอสองรายการออกสตาร์ตร้อนแรงทำสามเบอร์ดี้รวด และทำเพิ่มอีกสองเบอร์ติดหลุม 6-7 จากนั้นไปพลาดเสียโบกี้หลุม 12 แต่กลับมาด้วยการทำเบอร์ดี้หลุม 16 และ17 สกอร์จบลง 6 อันเดอร์พาร์ 66 รวมสี่วัน 22 อันเดอร์พาร์ 266 จบอันดับสองรับเงินรางวัล 1 ล้านดอลอลาร์หรือราว 32.3 ล้านบาทนับเป็นเงินรางวัลที่มากที่สุดที่เคยทำได้ในการเล่นกอล์ฟอาชีพ

  เนลลี คอร์ดา โปรสาวชาวอเมริกันมือ 2 ของโลกทำ 4 อันเดอร์พาร์ 68 รวมสี่วัน 20 อันเดอร์พาร์ 268 จบอันดับสามรับเงินรางวัล 550,000 ดอลลาร์หรือราว  17.8 ล้านบาท

ผลงานนักกอล์ฟไทยคนอื่น ๆ "แพตตี้" ปภังกร ธวัชธนกิจ แชมป์แอลพีจีเอสองรายการรวมทั้งเมเจอร์ทำ 5 อันเดอร์พาร์ 67 รวม 14 อันเดอร์พาร์ 274 จบอันดับ 7 ร่วมรับเงินรางวัล 137,000 ดอลลาร์หรือราว 4.4 ล้านบาท "เม" เอรียา จุฑานุกาล แชมป์อาชีพแอลพีจีเอ 12 รายการรวทั้งแชมป์รายการนี้เมื่อปี 2017 ทำ 1 อันเดอร์พาร์ 71 รวม 9 อันเดอร์พาร์ 279 จบอันดับ 33 ร่วม รับเงินรางวัล 67,000 ดอลลาร์หรือราว 2.1 ล้านบาท และ"พราว" ชเนตตี วรรณแสน แชมป์แอลพีจีเอสองรายการทำ 3 โอเวอร์พาร์ 75 รวม 6 โอเวอร์พาร์ 294 จบอันดับ 60 รับเงินรางวัล 55,000 ดอลลาร์หรือราว 1.7 ล้านบาท

สำหรับการแข่งขันฤดูกาล 2026 จะเริ่มต้นในรายการทัวร์นาเมนต์ ออฟ แชมเปียนส์ ที่ออร์แลนโด รัฐฟลอริดา ประเทศสหรัฐอเมริกา ระหว่างวันที่ 29 มกราคม-1 กุมภาพันธ์ ตามด้วยฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ ที่ประเทศไทย ระหว่างวันที่ 19-22 กุมภาพันธ์ 

Comments

Popular posts from this blog

“ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์มอบเงินประมูลของนักกอล์ฟบริจาค 2,149,000 บาท แก่ศิริราชมูลนิธิ เพื่อสนับสนุนอนาคตทางการแพทย์

อาฒยา, เอรียา, ชเนตตี, ปภังกร นำทีมสาวไทยป้องกันแชมป์อินเตอร์เนชันแนล คราวน์ ที่เกาหลีใต้

สามสาวไทยจากแอลพีจีเอพร้อมสู้ศึก เคแอลฯ ที่บลูแคนยอนฯ