มูลนิธิกีฬากอล์ฟไทย จับมือ อาร์แอนด์เอ และมูลนิธิธงชัยใจดี ทำโครงการสอนกอล์ฟระดับชุมชน

 


โครงการสอนกอล์ฟระดับชุมชน หรือ Community Golf Instructor Program เป็นโครงการที่ได้รับความร่วมมือจากมูลนิธิกีฬากอล์ฟไทย อาร์ แอนด์ เอ The R&A และมูลนิธิธงชัยใจดี มีวัตุประสงค์เป็นสารตั้งต้นในการพัฒนาผู้ฝึกสอนกอล์ฟในระดับชุมชนและเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงกีฬากอล์ฟให้แก่เยาวชน และต่อยอดเพิ่มจำนวนประชากรกอล์ฟ และเมื่อสามองค์กรจับมือกัน ความเป็นไปได้ก็จะเพิ่มมากขึ้นเป็นลำดับ โครงการสอนกอล์ฟระดับชุมชน ครั้งแรกจึงเกิดขึ้น ระหว่างวันที่ 17-19 พฤศจิกายน 2568 ณ โรงแรมเฮอริเทจ ลพบุรี

โดยวันแรก(17พ.ย.)มีพิธีเปิดโครงการ บรรยายเรื่องการสอนกอล์ฟระดับชุมชน สาธิตการปฏิบัติการสอนระดับชุมชน จากทีมงานมืออาชีพ โดยมีโปรป้อมเพชร สารพุฒิ เฮดโค้ชของสถาบันสอนกอล์ฟธงชัยใจดี กอล์ฟ อคาเดมี เป็นหัวหน้าทีมผู้ฝึกสอน ในวันที่สอง(18 พ.ย.)มีการทดลองการสอนกอล์ฟระดับชุมชน จากบุคลากรของสถาบันต่างๆที่เข้าร่วมได้เรียนและปฎิบัติมาตลอดสองวัน และในวันสุดท้าย(19พ.ย.)เป็นการจัดสถานีการสอนกอล์ฟ และแบ่งกลุ่ม  พร้อมทดสอบการสอนกอล์ฟระดับชุมชน และจบโครงการด้วยการรับมอบเกียรติบัตร

ผู้เข้าอบรมเป็นบุคลากรจากสถาบันต่างๆรวมทั้งสิ้น 50 คน จาก 11 โรงเรียน 1 มหาวิทยาลัย ได้แก่ รร โคกเจริญ,รร โคกลำพาน,รร งามมีศรี ,รร ชัยบาดาลพิทยาคม,รร ธงชัยใจดีไตรวิเทศศึกษา ,รร บ้านวังเพลิง,รร เพ็ญพัฒนา,รร เมืองละโว้วิทยา ,รร รุ่งนิวัติ ,รร วินิตศึกษา ในพระราชูปถัมภ์ฯ ,รร สุวัฒนบดี และมหาวิทยาลัยสยาม นอกจากนี้ยังรวมถึงเด็กนักเรียนที่ไม่เคยได้สัมผัสกีฬากอล์ฟที่ติดตามคุณครูมาร่วมทำกิจกรรมด้วย

ในพิธีมอบเกียรติบัตรหลังจบการอบรม ได้รับเกียรติจากนายวัชรพงศ์ พิพัฒน์สุริยวงศ์ ศึกษาธิการจังหวัดลพบุรี ,นายมหิทธร สุรบุญจรัส ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดลพบุรี,นายสุทิน ดรุณโยธิน ประธานมูลนิธิกีฬากอล์ฟไทย และดร.ธงชัย ใจดี ประธานมูลนิธิธงชัยใจดี ร่วมแสดงความยินดี

เรวดี ต สุวรรณ กรรมการและเลขาธิการมูลนิธิกีฬากอล์ฟไทย สตรีผู้มีบทบาททำให้โครงการนี้เกิดขึ้นมาได้ เปิดใจว่า “มูลนิธิกีฬากอล์ฟไทย เป็นการรวมตัวของสมาคมกีฬากอล์ฟสตรีฯสมาคมกีฬากอล์ฟแห่งประเทศไทยฯ สมาคมกีฬากอล์ฟอาชีพแห่งประเทศไทย สมาคมกีฬากอล์ฟอาชีพสตรี สมาคมกีฬากอล์ฟอาชีพอาวุโสไทย และสมาคมสนามกอล์ฟไทย เรามีแนวคิดจะทำโครงการนี้มาตลอดสามปีที่ผ่านมา เมื่อฟอร์มมูลนิธิได้แล้วก็ดีใจมาก เราจะเป็นมูลนิธิกีฬากอล์ฟประเทศเดียวในภูมิภาคนี้ พอเป็นมูลนิธิ ดิฉันก็ไปถึง อาร์ แอนด์ เอ ซึ่งเป็นองค์กรกีฬากอล์ฟของโลก ดูแลกีฬากอล์ฟทุกประเทศในโลกนี้ ยกเว้นอเมริกา แคนาดา และเม็กซิโก ซึ่งเค้ามี ยูเอสจีเอ ดิฉันก็ไปนำเสนอว่าเรามีมูลนิธิแล้ว เราต้องการให้กีฬากอล์ฟก้าวไกล ยากมากที่จะขอทุนสนับสนุนจากหน่วยงานภาครัฐในประเทศ เพราะเขามีภารกิจหลายเรื่องที่ต้องทำ ทางอาร์แอนด์เอ ก็มาประชุมที่ประเทศไทยและให้การบ้านว่า มูลนิธิกีฬากอล์ฟไทยต้องสร้างนักกอล์ฟขึ้นมาให้ได้ 5 ล้านคน เราก็ยอมรับคำท้าเพราะอยากได้เงินเค้า แต่เราไม่ได้สัญญาว่ากี่ปีจะได้ 5 ล้านคน การที่จะเริ่มหานักกอล์ฟต้องเริ่มจากโรงเรียน แต่เด็กยังขาดโอกาส สิ่งที่อยากทำคือจะต้องมีกีฬากอล์ฟในโรงเรียนให้ได้ จึงเป็นจุดเริ่มต้นโครงการ Community Golf Instructor Program นี้ค่ะ”

สุทิน ดรุณโยธิน ประธานมูลนิธิกีฬากอล์ฟไทย กล่าวว่า “ในฐานะประธานมูลนิธิกีฬากอล์ฟไทย ขอแสดงความยินดีกับผู้ผ่านการอบรมทุกท่าน ขอให้นำความรู้ที่เรียนมาไปสอนให้ชุมชน ให้เด็กๆตั้งแต่ทักษะเบื้องต้น ไปจนถึงอนาคตก็คือโปรของประเทศไทย จุดมุ่งหมายของมูลนิธิธงชัยฯที่ผมได้ทราบจากสื่อคือที่นี่ทำได้สมบูรณ์ทุกอย่าง ขอชมเชย ที่อื่นๆก็มีบ้างแต่ส่วนใหญ่สอนคนที่เป็นแล้วมาฝึก ที่นี่ได้เจอเด็กๆได้มาดูทุกอย่างก็รู้สึกประทับใจเป็นอย่างยิ่งครับ”

ธงชัย ใจดี ประธานมูลนิธิธงชัยใจดี เผยว่า “ก่อนอื่นต้องแสดงความยินดีที่จบหลักสูตรในวันนี้ เราจะนำไปพัฒนาต่อยอดตามวัตถุประสงค์ของโครงการ หวังว่าเราจะช่วยเผยแพร่ และไปพัฒนาในเขตชุมชนต่างๆ โดยเฉพาะนักเรียนที่อยู่ต่างจังหวัดหรือต่างพื้นที่ ที่ขาดเรื่องความรู้ด้านกีฬากอล์ฟ โครงการนี้จะไม่สิ้นสุด เราจะทำตามนโยบายในการเพิ่มจำนวนประชากรกอล์ฟให้เกิดขึ้นมากที่สุด โดยเฉพาะประเทศไทยก็เป็นจุดศูนย์กลางอีกโครงการหนึ่ง เราหวังว่าจะให้โครงการนี้พัฒนาออกไปเรื่อยๆ ต้องขอขอบคุณทีมงานโปรทุกท่านที่มาช่วยในครั้งนี้ โดยสถานที่แห่งนี้มีผมเป็นผู้รับผิดชอบรวมถึง ดร.น้ำฝน ทีมครู สต๊าฟทุกคน ที่ทำงานออกมาได้สมบูรณ์ที่สุดต้องขอขอบคุณจริงๆครับ”



Comments

Popular posts from this blog

“ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์มอบเงินประมูลของนักกอล์ฟบริจาค 2,149,000 บาท แก่ศิริราชมูลนิธิ เพื่อสนับสนุนอนาคตทางการแพทย์

อาฒยา, เอรียา, ชเนตตี, ปภังกร นำทีมสาวไทยป้องกันแชมป์อินเตอร์เนชันแนล คราวน์ ที่เกาหลีใต้

สามสาวไทยจากแอลพีจีเอพร้อมสู้ศึก เคแอลฯ ที่บลูแคนยอนฯ