โค จินยอง สร้างประวัติศาตร์แชมป์ HSBC สองสมัยติด

 

โค จินยอง นักกอล์ฟสาวมืออันดับ 5 โลกจากเกาหลีใต้ สร้างประวัติครองแชมป์เอชเอสบีซี วีเมนส์ เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพ เป็นสมัยที่สองติดต่อกัน หลังจบวันสุดท้ายด้วยสกอร์รวม 17 อันเดอร์พาร์ 271 ที่สนามเซนโตซ่า กอล์ฟ คลับ ประเทศสิงค์โปร์ เมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2566 ชนะ เนลลี คอร์ดา นักกอล์ฟจากสหรัฐไปสองสโตรก ขณะที่ "จีน" อาฒยา ฐิติกุล  จบที่อันดับ 10 อันดับดีที่สุดของนักกอล์ฟไทย

  การแข่งขัน เอชเอสบีซี วีเมนส์ เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพ 2023 ซึ่งเป็นรายการที่ 3 ของฤดูกาล และได้รับการยกย่องว่าเป็น “เมเจอร์หญิงแห่งเอเชีย” ชิงเงินรางวัลรวม 1.8 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 61 ล้านบาท มีนักกอล์ฟสาวชั้นนำจากทั่วโลกลงประชันวงสวิง 66 คน แข่งขัน 4 วัน แบบไม่มีตัดตัว ระหว่างวันที่ 2-5 มีนาคมที่ผ่านมา ณ สนามเซนโตซา กอล์ฟคลับ ตันจง คอร์ส ระยะ 6,774 หลา พาร์ 72 ประเทศสิงคโปร์

วันสุดท้ายเมื่อวันอาทิตย์ที่ 5 มีนาคม มีฝนตกหนักในช่วงบ่ายทำให้ต้องหยุดแข่งขันประมาณ 1 ชั่วโมง โดย โค จินยอง แชมป์เก่าปีที่แล้วจากเกาหลีใต้ ซึ่งออกสตาร์ทในฐานะผุ้นำยังคงรักษาฟอร์มดีต่อเนื่องหวดเพิ่มอีก 3 อันเดอร์พาร์ 69 จากการทำ 4 เบอร์ดี้ เสียเพียงโบกี้เดียว จบด้วยสกอร์รวม 17 อันเดอร์พาร์ 271 คว้าแชมป์เป็นสมัยที่สองติดต่อกัน พร้อมรับเงินรางวัล 270,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 9.2 ล้านบาท โดยมี เนลลี คอร์ด้า มือ 2 ของโลกจากสหรัฐฯ รั้งรองแชมป์ไปด้วยสกอร์รวม 15 อันเดอร์พาร์ 273 

จิน-ยอง วัย 27 ปี แชมป์ปี 2022 กลายเป็นนักกอล์ฟคนแรกที่คว้าแชมป์สองสมัยติดต่อกันในรายการนี้ และเป็นคนที่สองที่คว้าแชมป์สองครั้งต่อจาก พัค อินบี นักกอล์ฟรุ่นพี่จากเกาหลีใต้ด้วยกันที่ทำได้เมื่อปี 2015 และ 2017 

และนับเป็นแชมป์ที่ 8 ของนักกอล์ฟเกาหลีใต้ใน 15 ครั้งของรายการนี้มี โค จิน-ยอง ปี 2022-2023 คิม ฮโย-จู ปี 2021 พัค ซอง-ฮยอน ปี 2019 พัค อินบี ปี 2017, 2015 จาง ฮานา ปี 2016 และ ชิน จีเอ ปี 2009 

แชมป์ครั้งนี้ จิน-ยอง ได้รับเงินรางวัลไป 270,000 ดอลลาร์ ทำให้เงินรางวัลรวมปีนี้ 317,079 ดอลลาร์ และเงินรางวัลรวมการเล่นอาชีพแอลพีจีเอ ทัวร์ เป็น 10,680,535 ดอลลาร์

"จีน" อาฒยา ฐิติกุล มือ 4 ของโลก ทำ  5 อันเดอร์พาร์ 67 จากการทำ 8 เบอร์ดี้ เสีย 1 โบกี้ กับอีก 1 ดับเบิ้ลโบกี้ที่หลุม 2 พาร์ 4 สกอร์รวมสี่วัน 10 อันเดอร์พาร์ 278 จบอันดับ 10 นับเป็นการจบลงใน 10 อันดับแรกสองรายการติดต่อกันหลังจากจบอันดับ 3 รายการฮอนด้า แอลพีจเอ ไทยแลนด์ ที่ประเทศไทยเมื่อสัปดาห์ก่อน

อาฒยา กล่าวถึงผลงานในรายการนี้ว่า “สัปดาห์นี้แม้จะมีฝนตกตลอดแต่ก็ไม่เป็นปัญหาอะไร แค่อาจจะมีเสียโมเมนตัมบ้างที่เล่นๆ อยู่แล้วต้องมีหยุด ปีนี้รู้สึกว่าสนามเซ็ตไว้ให้เล่นง่ายขึ้นเพราะฝนตก บนกรีนไม่แข็งเหมือนปีที่ผ่านมา ทำให้เล่นง่ายขึ้นนิดหน่อย แต่ตำแหน่งธงปีนี้ยากมาก โดยรวมทุกอย่างดีหมดแต่ไดร์ฟไม่อยู่เอง เลยทำแต้มไม่ได้ พัตต์ดี ลูกสั้นก็ดี โดยเฉพาะวันนี้ไดร์ฟดีขึ้น แอพโพรชได้ค่อนข้างดี แต่ก็ยังมีไดร์ฟเสียเล็กๆ น้อยๆ และมีสามพัตต์หนึ่งหลุม ก็พอใจในผลงานสัปดาห์นี้ที่ไดร์ฟไม่ดี ยังดีที่ได้พัตต์กับลูกสั้นช่วยไว้ ผลงานสัปดาห์นี้อยู่ในมาตรฐานที่ยังถือว่าใช้ได้”

"เม" เอรียา จุฑานุกาล อดีตมือ 1 ของโลกซึ่งเคยคว้าอันดับ 2 เมื่อปี 2017 ทำ 3 อันเดอร์พาร์  69 จบด้วยสกอร์รวม 8 อันเดอร์พาร์ 280 อยู่อันดับ 14 ร่วม 

ขณะที่ ลีเดีย โค มือหนึ่งของโลกจากนิวซีแลนด์ พลาดตีเกิน 2 โอเวอร์พาร์ 74 สกอร์รวม 5 อันเดอร์พาร์ 283 รั้งอันดับ 31 ร่วม 

นักกอล์ฟไทยอีกสามคน "โม" โมรียา จุฑานุกาล เก็บเพิ่ม 3 อันเดอร์พาร์ 69 สกอร์รวม 4 อันเดอร์พาร์ 284 อยู่อันดับ 33 ร่วม "แหวน" พรอนงค์ เพชรล้ำ ทำ 2 อันเดอร์พาร์ 70 สกอร์รวม 1 โอเวอร์พาร์ 289 รั้งอันดับ 50 ,"เหมียว" ปภังกร ธวัชธนกิจ ตีเกินอีก 1 โอเวอร์พาร์ 73 สกอร์รวม 3 โอเวอร์พาร์ 291 อยู่อันดับ 52 ร่วม และ "เมียว" ปาจรีย์ อนันต์นฤการ ทำ 1 อันเดอร์พาร์ 71  สกอร์รวม 4 โอเวอร์พาร์ 292 จบที่อันดับ 56 ร่วม